Saturday, March 31, 2007

space for _____.

เด็กห้องคิงส์, ผมเคยเป็นอคติกับเด็กที่ถูกจัดกลุ่มไว้ในประเภทนี้ครับ เพราะเป็นไปตามธรรมชาติที่เด็กห้องรั้งท้ายจะต้องเกลียด-ดูถูกผู้ที่ติ๋มกว่า หรืออีกนัยหนึ่งจะว่าอิจฉาก็ได้ครับ ที่พวกเขาเหนือกว่า-เก่งกว่าไปซะทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องเรียน

ห้องที่ผมอยู่มาตลอด 3 ปีช่วงเรียนมัธยมเป็นห้องเรียนสาย ศิลป์-ทั่วไป ไม่ต้องคิดมากครับว่ามันเรียนอะไรกัน เอาเป็นว่ามันเป็นห้องที่เด็กเรียนห่วยแตกรวมตัวกันอยู่อย่างหนาแน่นแล้วกัน ขณะนั้นผมแทบจำไม่ได้ว่ามีเพื่อนอยู่ห้องคิงส์บ้างหรือเปล่า เพราะเท่าที่จำได้ฉลาดสุดก็จะเป็นห้องที่เรียนศิลป์-ภาษา พวกวิทย์-คณิตนี่ยังไม่ค่อยจะมีเท่าไหร่ในเมมโมร

ไม่ใช่ว่าไม่คบกับเขาครับ แต่เหมือนว่าช่วงนั้นมันเป็นความแตกต่างระหว่างสองขั้วที่ดูแล้วจะไปด้วยกันไม่ได้ เด็กที่บ้าเรียนอย่างเด็กห้องคิงก็จะมีบุคลิกที่โดดเด่นอย่างเหมือนกันแทบทุกคนคือ แต่งตัวถูกระเบียบ, หน้าตาเรียบร้อย, กระเป๋าหนา, ใส่แว่น, พูดหยาบแบบเบาเบา, เล่นอะไรที่มันสร้างสรรค์, ในสมัยนี้คงเรียกรวมๆว่า 'เนิร์ดๆ'

กลับมาดูที่พวกผม, หน้าตาผิดระเบียบ, แต่งตัวผิดระเบียบ, กระเป๋าแบนแฟ่บ, พูดจาหยาบอย่างโฉ่งฉ่าง, เล่นอะไรที่มันมอมเมาและไร้สาระ, ในสมัยไหนเขาก็เรียกพวกเด็กเกเร

ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่มันกลายเป็นสองฝั่งกันอย่างถาวร พาลทำให้ไม่ชอบหน้าและมีการดูถูกกันเกิดขึ้น

เด็กห้องคิงส์ก็ดูถูกเด็กห้องบ๊วยว่า "พวกมึงก็ได้แค่กร่าง ใช้สมองไม่เป็น"
เด็กห้องบ๊วยก็ดูถูกเด็กห้องคิงส์ว่า "พวกมึงก็ได้แค่เรียน ใช้ชีวิตไม่เป็น"

ผมก็เคยคิดอย่างที่เด็กห้องบ๊วยเป็น แต่เท่าที่ผมผ่านชีวิต ม.ปลาย มาแล้วกว่า 4 ปี มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ผมได้ตาสว่างขึ้น
เด็กห้องคิงส์เรียนดีที่ผมเห็นในวันนั้น วันนี้กลายเป็นพวกติดเหล้า สูบบุหรี่ และทำหลายสิ่งอย่างที่เด็กห้องบ๊วยสมัยนั้นทำ บางคนยังเรียนไม่จบและออกไปทำตัวเละเทะ และยิ่งบางคนที่พลาดหวังกับการเอนท์ทรานซ์ก็ยังจิตใจล้มเหลวจนเป็นอันไม่ทำอะไรอีกต่างหาก แถมยังมีอีกช่วงหนึ่งที่มีข่าวเกี่ยวกับนักวิชาการ-แพทย์-อาชีพต่างๆ ที่ดูแล้วฉลาดจะมีปัญหาทางจิตมากกว่าใครเพื่อน
ส่วนเด็กเรียนห้องบ๊วยเรียนเลวในวันนี้ เพื่อนผมบางคนเรียนดีซะจนพวกห้องคิงส์มาเห็นยังต้องอาย บางคนได้ดิบได้ดีจนทำการทำงานกันก่อนหน้าเพื่อนหลายคน บางคนก็ผ่านประสบการณ์ชีวิตที่กลายสภาพมาเป็นแนวคิดอันยอดเยี่ยมต่อการพัฒนาสังคมได้
เพราะสังคมแวดล้อมที่เขาผ่านมาตลอดเวลาที่เขาใช้ชีวิต รวมถึงช่วงที่อยู่ในห้องบ๊วยนี่ด้วย หรือกับคนที่มีชื่อเสียงบางคน เขาโด่งดังและเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญในศาสตร์ต่างๆ ได้โดยที่ไม่ต้องเป็นคนที่อยู่ในห้องเรียนซึ่งเต็มไปด้วยเด็กเรียนมาก่อนด้วยซ้ำ

ยิ่งได้คิดผมยิ่งแน่ใจว่า มันช่างเชื่ออะไรไม่ได้เลย
คนเราจะเป็นอย่างที่ถูกตัดสินไปในช่วงใดช่วงหนึ่งได้อย่างไรกัน?
เส้นทางชีวิตของมนุษย์มันหันเหได้ทุกทางภายในเสี้ยววินาทีแห่งความคิดและสำนึก
คนดีคิดจะชั่วก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องข้ามคืน
คนชั่วคิดจะดีก็ทำได้โดยไม่ต้องข้ามวันเช่นเดียวกัน
ทุกอย่างมันอยู่ที่ใจว่าอย่างนั้น

คิงส์แล้วไง? บ๊วยแล้วไง?, นี่คือสิ่งที่ผมคิดได้
เก่งแล้วไง-อ่อนแล้วไง?, นี่ด้วย

ว่าแต่ ใครกำหนดว่า คิงส์คือผู้ยิ่งใหญ่? เก่งคือคนที่น่านับถือ? บ๊วยคือคนห่วย? อ่อนคือคนแย่?
ไม่ใช่ 'ใจ' ของมนุษย์หรอกเหรอครับ?

ถามมนุษย์ทุกผู้
จะเก่งไปทำไมครับ?

No comments: